ดูคลิปสัมภาษณ์: Interview with Suphachai Chearavanont, CEO of CP Group & Chairman Of The Board Of True Corporation Read more at https://www.channelnewsasia.com/news/video-on-demand/asia-first-encore/cna-interview-with-suphachai-chearavanont-ceo-of-cp-group-11935782
เมื่อเร็ว ๆ นี้ CNA สื่อสิงคโปร์ได้สัมภาษณ์คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หลากหลายประเด็น เริ่มจากเรื่องการค้นหาสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น ซึ่งคุณศุภชัยให้ความเห็นว่า ไม่ใช่เรื่องยากในการหา เพราะสตาร์ทอัพไทยที่มีศักยภาพสูงมีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยคนกลุ่มนี้ต้องการการสนับสนุนทางด้านเงินทุน ซึ่งถ้าประเทศไทยสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสม เช่นด้านภาษีและกฎหมาย ก็จะสามารถดึงดูดสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง รวมถึงรักษาสตาร์ทอัพเดิมที่มีอยู่แล้ว ตลอดจนดึงดูดสตาร์ทอัพหน้าใหม่ ๆ จากนอกประเทศได้อีกด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ CNA สื่อสิงคโปร์ได้สัมภาษณ์คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หลากหลายประเด็น เริ่มจากเรื่องการค้นหาสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น ซึ่งคุณศุภชัยให้ความเห็นว่า ไม่ใช่เรื่องยากในการหา เพราะสตาร์ทอัพไทยที่มีศักยภาพสูงมีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยคนกลุ่มนี้ต้องการการสนับสนุนทางด้านเงินทุน ซึ่งถ้าประเทศไทยสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสม เช่นด้านภาษีและกฎหมาย ก็จะสามารถดึงดูดสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง รวมถึงรักษาสตาร์ทอัพเดิมที่มีอยู่แล้ว ตลอดจนดึงดูดสตาร์ทอัพหน้าใหม่ ๆ จากนอกประเทศได้อีกด้วย
ส่วนเรื่องของเทคโนโลยี
5G
นั้นคาดว่า ประเทศไทยน่าจะสามารถใช้ได้จริงราว ๆ ปลายปีหน้าหรือต้นปี
2564 ซึ่งจะช่วยให้การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ได้ในวงการต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คุณศุภชัยกล่าวถึงธุรกิจของซีพีว่า
ซีพีให้ความสำคัญกับเรื่องของคนและการพัฒนาคน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าขององค์กร
เครือซีพีโชคดีที่มีผู้นำที่เป็นทั้งคนเก่งและคนดี ที่ช่วยกันสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับเครือฯ
สามารถพัฒนาเจริญเติบโตได้ในหลากหลายธุรกิจจนถึงทุกวันนี้
ส่วนเรื่องของการลงทุนในต่างประเทศนั้น
คุณศุภชัยกล่าวว่า ตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมา เครือฯ
ลงทุนทางด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารในกว่า 20 ประเทศ
ส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย โดยจีนเป็นประเทศที่เครือฯ ไปลงทุนมากเป็นอันดับสอง
สำหรับเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน
คุณศุภชัยมองว่า ซีพีไม่ได้พึ่งพาการส่งออกไปยังจีนและสหรัฐฯ จึงไม่ได้รับผลกระทบในส่วนนี้
แต่ก็มองว่าปัญหานี้อีกไม่นานคงจบ เพราะเป็นเรื่องของการเมืองมากกว่าปัญหาพื้นฐาน
และทั้งสองประเทศต่างต้องพึ่งพาอาศัยกันมาก ซึ่งแน่น่อนว่าหากสองฝ่ายสามารถหาข้อยุติจบปัญหาลงได้
ก็จะเป็นผลดีกับประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียด้วย
ส่วนสถานการณ์ในฮ่องกงนั้น
มองว่าเป็นปัญหาเฉพาะในสังคมของแต่ละประเทศ การออกมาเรียกร้องก็เป็นการแสดงออกอย่างหนึ่ง
ที่ทำให้ผู้มีอำนาจเห็นความสำคัญของปัญหา ซึ่งจีนก็คงมองเรื่องนี้ออกและน่าจะกำลังพยายามแก้ไขปัญหาอยู่
แม้ตอนนี้อาจดูเหมือนว่าสถานการณ์ย่ำแย่ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานจะดีขึ้น
ต่อข้อถามถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย
คุณศุภชัยกล่าวว่า ปัจจุบันการเมืองในประเทศไทยดีขึ้นมากกว่าช่วง 10-12
ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความไม่แน่นอน เชื่อว่าจากนี้ไป ประเทศไทยจะมีความมั่นคงและ
ก้าวหน้าขึ้น
**********************
Comments
Post a Comment